Home l About Us l Member l News & Events l Photo Gallery l Contact Us |
About Us
ข้อ 2. สำนักงานของสมาคม ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 9/8 ซอยพระบารมี 6 ถนนพระบารมี ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ ภูเก็ต 83150 โทรศัพท์ 076 – 292510 - 12 โทรสาร 076-292512 ข้อ 3. ตราของสมาคม มีเครื่องหมายเป็นรูป ดังนี้ ตราของสมาคมนี้มีเครื่องหมายเป็นรูปใบตองสองใบอยู่ด้านหน้ารูปเหมือนหน้าจั่วทรงไทยสองอันด้านล่างมีอักษร ภาษาไทยว่า " สมาคมโรงแรมหาดป่าตอง " และถัดลงมามีอักษรภาษาอังกฤษว่า " PATONG HOTEL ASSOCIATION"
ข้อ 4. สมาคมนี้มีวัตถุที่ประสงค์ดังต่อไปนี้ .-
ข้อ 5. คุณสมบัติของสมาชิก สมาชิกของสมาคมการค้านอกจากคุณสมบัติตามข้อ 6 แล้ว ยังต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ.-
ข้อ 6. ประเภทสมาชิก สมาชิกของสมาคมแบ่งออกเป็น 3 ประเภท และมีคุณสมบัติดังนี้ คือ.-
ข้อ 7. การสมัครเข้าเป็นสมาชิก ผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมจะ ต้องยื่นความจำนง ต่อเลขานุการ หรือกรรมการผู้ทำหน้าที่แทนเลขานุการตามแบบพิมพ์ที่สมาคมได้กำหนดไว้ โดยมีสมาชิกสามัญเป็นผู้รับรองอย่างน้อยสองคน
ข้อ 8. การพิจารณาคำขอสมัครเข้าเป็นสมาชิก ให้เลขานุการ หรือกรรมการผู้ทำหน้าที่แทนเลขานุการ นำใบสมัครเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการในคราวต่อไป หลังจากที่ได้รับใบสมัครเมื่อคณะกรรมการมีมติให้รับหรือไม่รับผู้ใดเข้าเป็นสมาชิก ให้เลขานุการ มีหนังสือแจ้งให้ผู้นั้นทราบภายในเจ็ดวัน นับแต่วันลงมติ
ข้อ 9. ทะเบียนสมาชิก ให้นายทะเบียนจัดทำทะเบียนสมาชิกไว้ โดยมีรายการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พุทธศักราช 2509
ข้อ 10. การขาดจากสมาชิกภาพ สมาชิกภาพย่อมสิ้นสุดลง ในกรณีดังต่อไปนี้
ข้อ 11. สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญ
ข้อ 12. สิทธิหน้าที่ของสมาชิกวิสามัญ
ข้อ 13. ค่าธรรมเนียมการสมัครเข้าเป็นสมาชิกและค่าบำรุงสมาคมประจำปี
ข้อ 14. ค่าบำรุงพิเศษ สมาคมอาจเรียกเก็บค่าบำรุงพิเศษจำนวนเท่าใดจากสมาชิกได้เป็นครั้งคราว โดยที่ประชุมใหญ่ลงมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนสมาชิกสามัญที่มาประชุมทั้งหมด
ข้อ 15. การเข้าดำรงตำแหน่ง ของกรรมการบริหารตำแหน่งต่าง ๆ ให้ที่ประชุมใหญ่เป็นผู้เลือกตั้ง กรรมการ จำนวน 9 คน แล้วให้กรรมการที่ได้รับเลือก จำนวน 9 คน พิจารณาสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมและให้นายกสมาคมเป็นผู้เลือกอุปนายกสมาคมจำนวนตามความเหมาะสม พร้อมทั้งพิจารณาแต่งตั้งบุคคลที่เป็นสมาชิกของสมาคมเข้าเป็นกรรมการบริหารเพิ่มเติม ได้อีกไม่เกิน 8 คน
ข้อ 16. คณะกรรมการของสมาคม อยู่ในตำแหน่งได้วาระละ 2 ปี และให้คณะกรรมการชุดเดิมรักษาการในตำแหน่ง จนกว่า คณะกรรมการชุดใหม่ จะรับมอบงานเสร็จ จึงจะถือว่าพ้นความรับผิดชอบในหน้าที่ ทั้งนี้ให้รับมอบงานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
ข้อ 17. การเลือกตั้งกรรมการ ให้กระทำโดยวิธีให้สมาชิกเสนอชื่อสมาชิกสามัญ ซึ่งตนประสงค์จะให้เข้ารับเลือกตั้งเป็นกรรมการ ต่อที่ประชุมใหญ่ โดยมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 3 ท่าน แล้วให้ที่ประชุมใหญ่ลงมติเลือกตั้ง ให้ผู้ได้รับคะแนนสูงตามลำดับดำรงตำแหน่งกรรมการและคะแนนที่ได้ต้องเท่าหรือไม่น้อยกว่า 3 คะแนน ถ้ามีผู้ได้คะแนนเท่ากันในลำดับสุดท้ายก็ให้ใช้วิธีจับฉลาก
ข้อ 18. การพ้นจากตำแหน่งกรรมการ ในกรณีต่อไปนี้
ข้อ 19. กรณีกรรมการออกจากตำแหน่ง โดยไม่ครบตามกำหนดวาระ ให้สมาชิกที่ได้รับคะแนนรองลงไปในการเลือกตั้งกรรมการชุดที่อยู่ในตำแหน่งเข้าเป็นกรรมการแทนในตำแหน่งที่คณะกรรมการ จะพิจารณาเห็นสมควร ให้ผู้ที่มาแทนอยู่ในตำแหน่งเพียงเท่าอายุวาระของผู้ที่ตนแทน ถ้าตำแหน่งนายกสมาคมว่างลงก่อนกำหนดออกตามวาระ ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ให้คณะกรรมการของสมาคม ทำการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ จากอุปนายกและให้ผู้ที่มาแทนอยู่ในตำแหน่งนายก เพียงเท่าอายุวาระของผู้ที่ตนแทน
ข้อ 20. อำนาจหน้าที่กรรมการของสมาคมในตำแหน่งต่างๆ มี
ข้อ 21. อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการของสมาคมในตำแหน่งต่างๆ มีดังนี้
ข้อ 22. ในการประชุมคณะกรรมการ อนุกรรมการ ตลอดจนการประชุมใหญ่ ให้บันทึกรายงานการประชุมไว้ทุกครั้งและให้นำเสนอที่ประชุมเพื่อรับรองในการประชุมครั้งต่อไป
ข้อ 23. การประชุมใหญ่ ให้คณะกรรมการจัดให้มีการประชุมใหญ่สมาชิกอย่างน้อยทุกระยะเวลาสิบสองเดือน การประชุมเช่นนี้เรียกว่า การประชุมใหญ่สามัญ การประชุมใหญ่คราวอื่นนอกจากการประชุมใหญ่ตามวรรคก่อน เรียกว่า การประชุมใหญ่วิสามัญ
ข้อ 24. กำหนดการประชุมใหญ่
ข้อ 25. การส่งหนังสือบอกกล่าวนัดประชุม คณะกรรมการจะต้องส่งหนังสือบอกกล่าวถึงวันเวลา สถานที่ และระเบียบวาระการประชุมใหญ่ไปให้สมาชิกทุกคนได้ทราบโดยส่งจดหมายทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ณ ที่อยู่ของสมาชิกที่ปรากฏอยู่ในทะเบียน หรือส่งให้ถึงตัวสมาชิกก่อนกำหนดวันประชุมใหญ่ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน การจัดส่งหนังสือบอกกล่าวตามวรรคแรก ให้ส่งสำเนาบันทึกรายงานการประชุมใหญ่ครั้งที่แล้ว (ถ้ามี) ไปด้วย ในกรณีที่เป็นการนัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี จะต้องแนบสำเนารายงานประจำปีและสำเนางบดุล รวมทั้งสำเนาบัญชีรายรับ - รายจ่าย ซึ่งผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบแล้วเพิ่มเติมไปด้วย
ข้อ 26. องค์ประชุมในการประชุมใหญ่ ในการประชุมใหญ่จะต้องมีสมาชิกสามัญมาประชุมไม่น้อย กว่าครึ่งหนึ่ง ของจำนวนสมาชิกสามัญทั้งหมดจึงจะถือเป็นองค์ประชุม
ข้อ 27. กรณีการประชุมในครั้งแรกสมาชิกมาไม่ครบองค์ประชุม หากล่วงพ้นกำหนดเวลานัดไป แล้วหนึ่งชั่วโมง ยังมีสมาชิกมาไม่ครบองค์ประชุม ถ้าการประชุมใหญ่คราวนั้นได้เรียกนัดเพราะสมาชิกรองขอ ให้เลิกการประชุมใหญ่นั้น ถ้ามิใช่เพราะสมาชิกร้องขอ ให้เลื่อนการประชุมและให้ทำการบอกกล่าวนัดประชุมวัน เวลา และสถานที่ประชุมใหญ่นี้อีกครั้งหนึ่งภายในกำหนดเวลาสิบห้าวัน นับแต่วันประชุมใหญ่คราวแรก ในการประชุมใหญ่คราวหลังนี้จะมีสมาชิกมามากน้อยเพียงใดก็ให้ถือว่าเป็นองค์ประชุม
ข้อ 28. ประธานในที่ประชุม ให้นายกสมาคมเป็นประธานในที่ประชุมใหญ่ ถ้านายกสมาคมไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้อุปนายกผู้มีอาวุโสตามลำดับทำหน้าที่แทน ถ้าทั้งนายกสมาคมและอุปนายกไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งกรรมการคนหนึ่งคนใดขึ้นเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าไม่มีกรรมการอยู่ในที่ประชุมเลยก็ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งสมาชิกคนใดคนหนึ่งขึ้นเป็นประธา
ข้อ 29. วิธีออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่ สมาชิกสามัญเท่านั้นมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน และสมาชิกสามัญคนหนึ่ง ๆ มีคะแนนเสียงหนึ่งเสียงในการประชุมใหญ่ใด ๆ ข้อมติอันเสนอให้ลงคะแนน ให้ตัดสินด้วยวิธีชูมือ หรือวิธีการอื่นใดอันเป็นการเปิดเผยว่าสมาชิกใดลงคะแนนเช่นไร เว้นแต่เมื่อก่อนหรือในเวลาที่แสดงผลแห่งการชูมือนั้น คณะกรรมการเห็นสมควรหรือได้มีสมาชิกสามัญสองคนเป็นอย่างน้อยติดใจ ร้องขอให้ลงคะแนนลับ
ข้อ 30. มติของที่ประชุมใหญ่ นอกจากที่กล่าวไว้เป็นอย่างอื่นในข้อบังคับนี้ ให้ถือเอาคะแนนเสียงข้างมากเป็นมติของที่ประชุมใหญ่ ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันจะเป็นการชูมือก็ดี การลงคะแนนลับก็ดี หรือด้วยวิธีการอื่นใดก็ดี ให้ผู้เป็นประธานในที่ประชุมมีคะแนนอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
ข้อ 31. กิจการอันพึงกระทำในการประชุมใหญ่ มีดังนี้ .-
ข้อ 32. กิจการอันพึงกระทำในการประชุมสมาชิกประจำเดือน ได้แก่ กิจการอันเกี่ยวกับการปฏิบัติธุรกิจทั่วไปของสมาคม นอกจากกิจการที่จำเป็นจะต้องกระทำโดยการประชุมใหญ่สามัญประจำปีหรือการประชุมใหญ่วิสามัญ
ข้อ 33. การจัดทำรายงานบันทึกประชุม รายงานการประชุมคณะกรรมการ การประชุมใหญ่ การประชุมสมาชิกอื่น ๆ และการประชุมอนุกรรมการ ให้จดบันทึกไว้ทุกครั้ง และต้องเสนอต่อที่ประชุมเพื่อรับรองในคราวที่มีการประชุมครั้งต่อไป รายงานการประชุมที่ผ่านการรับรองแล้ว สมาชิกจะดูได้ในวันและเวลาทำการ
ข้อ 34. วันสิ้นปีทางบัญชี ให้ถือเอาวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิ้นปีทางบัญชีของสมาคมการค้า
ข้อ 35. การจัดทำงบดุล ให้คณะกรรมการจัดทำงบดุลที่เป็นอยู่ ณ วันสิ้นปีทางบัญชีนั้นแล้วส่งให้ผู้สอบบัญชีไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี และผู้สอบบัญชีจะต้องตรวจสอบให้แล้วเสร็จก่อนวันประชุมใหญ่ประจำปีไม่น้อยกว่าสามสิบวันงบดุล ซึ่งผู้สอบบัญชีได้รับรองแล้ว คณะกรรมการต้องดำเนินการเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญเพื่อพิจารณาอนุมัติภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันสิ้นปีทางบัญชี เมื่อเสนองบดุล ให้คณะกรรมการเสนอรายงานประจำปีแสดงผลการดำเนินงานของสมาคมต่อที่ประชุมใหญ่ด้วย ให้สมาคมส่งสำเนารายงานประจำปีแสดงผลการดำเนินงานของสมาคมกับงบดุลไปยังนายทะเบียนสมาคมการค้าประจำจังหวัดภูเก็ต ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการประชุมใหญ่ อนึ่ง ให้เก็บรักษารายงานประจำปีแสดงผลการดำเนินงานของสมาคมกับงบดุลไว้ที่สำนักงานของสมาคม เพื่อให้สมาชิกขอตรวจดูได้
ข้อ 36. อำนาจของผู้สอบบัญชี ผู้สอบบัญชีมีอำนาจเข้าตรวจสอบสรรพสมุด บัญชีและบรรดาเอกสารเกี่ยวกับการเงินของสมาคม และมีสิทธิสอบถามกรรมการตลอดจนเจ้าหน้าที่ของสมาคมทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีและเอกสารดังกล่าว ในการนี้กรรมการและเจ้าหน้าที่จะต้องช่วยเหลือและให้ความสะดวกทุกประการเพื่อการสอบเช่นว่านั้น
ข้อ 37. การเก็บรักษาสมุดบัญชีและเอกสารการเงิน จะต้องเก็บรักษาไว้ ณ สำนักงานของสมาคมและให้อยู่ในความดูแลรับผิดชอบเหรัญญิก
ข้อ 38. การเงินของสมาคม เงินสดของสมาคมจะต้องนำฝากไว้ ณ ธนาคารพาณิชย์แห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตท้องที่จังหวัดซึ่งสมาคมนี้ตั้งอยู่ในนามของสมาคม โดยความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ให้มีเงินทดรองจ่ายเกี่ยวกับกิจการของสมาคมไม่เกินวงเงิน 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ในการนี้เหรัญญิกเป็นผู้รับผิดชอบและเก็บรักษาตัวเงิน การฝากและการถอนเงินจากธนาคาร ให้อยู่ในอำนาจของนายกสมาคมหรืออุปนายกหรือกรรมการคนใดคนหนึ่ง โดยมติของที่ประชุมคณะกรรมการลงนามร่วมกับเหรัญญิก
ข้อ 39. การจ่ายเงินของสมาคม ให้นายกสมาคม อุปนายก หรือเลขานุการคนใดคนหนึ่ง มีอำนาจสั่งจ่ายเงินเกี่ยวกับกิจการของสมาคมได้ครั้งละไม่เกิน 5,000บาท(ห้าพันบาทถ้วน) ในการจ่ายเงินครั้งละเกินกว่า 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ให้กระทำโดยมติจากที่ประชุมคณะกรรมการทุกครั้งไป
ข้อ 40. เงินทุนพิเศษ สมาคมอาจหาเงินทุนพิเศษเพื่อมาดำเนินกิจการและส่งเสริมความก้าวหน้าของสมาคมได้โดยการเชื้อเชิญบุคคลภายนอก และสมาชิกร่วมกันบริจาคหรือกระทำการอื่นใด ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควรและไม่ขัดต่อกฎหมาย
ข้อ 41. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัดทอนหรือเพิ่มเติมข้อบังคับ จะกระทำได้แต่โดยมติของที่ประชุมใหญ่ซึ่งมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกสามัญที่มาประชุมทั้งหมด
ข้อ 42. การเลิกสมาคม สมาคมนี้อาจเลิกได้ด้วยเหตุหนึ่งเหตุใดดังต่อไปนี้ .-
ข้อ 43. การชำระบัญชี เมื่อสมาคมนี้ต้องเลิกไปเพราะเหตุหนึ่งเหตุใดดังกล่าวในข้อ 42 การชำระบัญชีของสมาคม ให้นำบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ.2509 มาใช้บังคับ ในกรณีที่สมาคมต้องเลิกไปตามข้อ 42 (1) ให้ที่ประชุมใหญ่คราวนั้นลงมติเลือกตั้งกำหนดตัวผู้ชำระบัญชีเสียด้วย และหากต้องเลิกไปตามข้อ 42 (3) ให้กรรมการทุกคนในคณะกรรมการชุดสุดท้ายที่ได้จดทะเบียนเป็นกรรมการต่อนายทะเบียนสมาคมการค้าประจำ เป็นผู้ชำระบัญชี หากมีทรัพย์สินของสมาคมเหลือจากการชำระบัญชี ให้ยกให้แก่นิติบุคคลในประเทศไทยที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการกุศลสาธารณะแห่งหนึ่งแห่งใด หรือหลายแห่งตามมติของที่ประชุมใหญ่
ข้อ 44. เมื่อนายทะเบียนสมาคมการค้าประจำ จังหวัดภูเก็ต ได้อนุญาตให้จัดตั้งเป็นสมาคมแล้ว ให้ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งทุกคนทำหน้าที่คณะกรรมการ (ชั่วคราว) จนกว่าจะได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการตาม ข้อบังคับนี้ ซึ่งจะต้องจัดให้มีขึ้นภายในกำหนดเวลาหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้ง เป็นสมาคมแล้ว ภายใต้บังคับแห่งความในวรรคแรก กรณีที่มีการประชุมใหญ่เลือกตั้งคณะกรรมการชุดแรกใน ช่วงเวลาน้อยกว่าสามเดือน นับแต่วันสิ้นปีทางบัญชีของสมาคม ให้ถือเอาวันสิ้นปีทางบัญชีของสมาคมเป็นวันตั้งต้นคำนวณวาระกรรมการตามข้อ 16 ข้อ 45. ให้ใช้ข้อบังคับนี้ ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนสมาคมการค้าประจำจังหวัดภูเก็ต ได้อนุญาตให้จัดตั้งเป็นสมาคมเป็นต้นไป |
|